วันเสาร์ที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ครั้งที่ 7




บันทึกอนุทิน
ประจำวันพุธ ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2558




เนื้อหา

- กิจกรรมเขียนชื่อนบนกระดาน เรื่อง เวลาการมาเรียน (นาฬิกา) ซึ่งเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวัน
          ความรู้ที่ได้จากการทำกิจกรรมนี้ คือ
  1. ทำให้ได้เรื่องของเวลา
  2. ทำให้ได้เรื่องของลำดับการมาก่อน- หลัง
  3. ภาษา

- ทบทวนเพลง
- รูปแบบการจัดประสบการณ์สำหรับเด็กปฐมวัย
       
1. รูปแบบการจัดประสบการณ์ " แบบบูรณาการ"
        2. รูปแบบการจัดประสบการณ์ " แบบโครงการ"
        3. รูปแบบการจัดประสบการณ์ " แบบสมองเป็นฐาน"
        4. รูปแบบการจัดประสบการณ์ " แบบ STEM"
        5. รูปแบบการจัดประสบการณ์ " แบบมอนเตสเซอรี่"
        6. รูปแบบการจัดประสบการณ์ " แบบเดินเรื่อง"

- นำเสนอโทรทัศน์ครู
       
         เลขที่ 17 นำเสนอ เรื่อง " การสอนโดยใช้ลูกเต๋าเป็นสื่อ ( ของ อ.นิตยา)

- รูปแบบการจัดประสบการณ์ " แบบบูรณาการ" ( Integrated Learning Management)
       
หมายถึง กระบวนการจัดประสบการณ์ตามความสนใจ ความสามารถ โดยเชื่อมโยงเนื้อหาสาระของศาสตร์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน ให้ผู้เรียนเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม สามารถนำความรู้  ทักษะ และเจตคติ ไปสร้างงาน แก้ปัญหา และใช้ในชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง

- ความสำคัญ
        1. ในชีวิตประจำวันสิ่งที่เกิดขึ้นนั้นจะเกี่ยวเนื่องสัมพันธ์กันกับศาสตร์ต่างๆผสมผสานกัน ทำให้ผู้ที่เรียนรู้ศาสตร์เดี่ยวๆมาไม่สามารถนำความรู้มาใช้ในการแก้ปํญหาได้
        ดังนั้น การจัดประสบการณ์แบบบูรณาการจะช่วยให้สามารถนำความรู้ ทักษะจากหลายๆศาสตร์มาแก้ปัญาได้กับชีวิตจริง
        2. การจัดประการณ์แบบบูรณาการทำให้เกิดความสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงความคิดรวบยอดของศาสตร์ต่างๆเข้าเ้วยกันทำให้เกิดการถ่ายโอนประสบการณ์ ( Transfer of learning)  ของศาสตร์ต้่างๆเข้าด้วยกัน
        3. การจัดประสบการณ์แบบบูรณาการช่วยลดความซ้ำซ้อนของเนื้อหารายวิชาต่างๆในหลักสูตร ทำให้ลดเวลาในการเรียนรู้น้อยลง
        4. การจัดประสบการณ์แบบบูรณาการจะตอบสนองต่อความสามารถหลายๆด้านของผู้เรียน ช่วยสร้างความรู้ ทักษะ เจตคติ " แบบพหุปัญหา" ( Multiple intelligence)
        5. การจัดประสบการณ์แบบบูรณาการจะสอดคล้องกับทฤษฎีการสร้างความรู้โดยผู้เรียน ที่กำลังแพร่หลายในปัจจุบัน (เด็กสร้างความรู้ด้วยตนเอง)

- การนำไปใช้
        ควรคำนึงถึง.......
                เด็ก  ต้อง  การ  อยาก  รู้อะไร
                  เด็ก  ต้อง  การ  อยาก  ทำอะไร


**  สรุป **

         การจัดประสบการ์แบบบูรณาการ คือ การนำศาสตร์ต่างๆมารวมกัน เพื่อนำมาพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ครบรอบด้าน ทั้งด้าน ร่างกาย อารมณ์- จิตใจ สังคม และสติปํญญา



วิธีการสอน
- บอกให้ทราบถึงเนื้อหาที่จะเรียน
- มีการทบทวนความรู้เดิม โดยการแสดงความคิดเห็น
- เปิดโอกาสให้ ถาม-ตอบ
- ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสอน



ทักษะ- ทักษะการคิดวิเคราะห์
- ทักษะในการถามตอบ
- ทักษะในการสรุปองค์ความรู้ที่ได้



การนำไปประยุกต์ใช้       นำความรู้เรื่องการจัดประสบการ์แบบบูรณาการ ไปใช้ในการจัดการเรียนการสอน การทำกิจกรรม ให้สอดคล้องกับสาระการเรียนรู้ให้รอบด้าน



บรรยากาศในห้องเรียน
       มีแสงสว่างมากพอ โต๊ะเก้าอี้จัดเป็นระเบียบเรียบร้อย พื้นห้องสะอาด วัสดุอุปกรณ์ในการเรียนการสอนมีพร้อม แต่อากาศในห้องเรียนค่อนข้างเย็น



ประเมินตนเอง
        ตั้งใจเรียน มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระมากยิ่งขึ้น มีเนื้อหาบางเนื้อหาที่ไม่ค่อยเข้าใจ



ประเมินเพื่อน
        ตั้งใจเรียน ให้ความมือในการเรียน ทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย



ประเมินอาจารย์        
        สอนได้เข้าใจง่าย จังหวะการพูดไม่ช้า ไม่เร็วจนเกินไป แต่เนื้อหาก็สอนเร็วเกินไป มีน้ำเสียงที่พอดี ร้องเพลงได้ไพเราะ ไม่ผิดไม่เพี้ยน ใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นักศึกษามีความกระตือรือล้น หากิจกรรมที่แปลกใหม่มาให้นักศึกษาทำและมีการเชื่อมโยงความรู้ต่างๆให้เข้ากับกิจกรรม  ทำให้เข้าใจและเกิดความรู้ที่แปลกใหม่มากยิ่งขึ้น





         

   


วันอาทิตย์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ครั้งที่ 6




บันทึกอนุทิน
ประจำวันพุธ ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2558

เนื้อหา

- กิจกรรมติดป้ายชื่อบนหน้ากระดาน เกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่นักศึกษาจำนวน 16 คน อยากไป คือ
1. ดรีมเวิลด์ = 5 คน
2. ทะเล = 5 คน
3. เกาหลี = 6 คน

** สรุป ** นักศึกษากลุ่ม 101 อยากไปเที่ยวที่เกาหลีมากที่สุด หรือ นักศึกษาอยากไปเกาหลีมากกว่าดรีมเวิลดฺและทะเล ซึ่งมีจำนวนเท่ากัน

   
       จากกิจกรรมดังกล่าว จะเกี่ยวกับเรื่องการนับ ( การเพิ่มขึ้นทีละ 1) และค่าจำนวน เป็นการสอนแบบภาษาธรรมชาติ

- ทดสอบก่อนเรียน        เทคนิคการจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์มีอะไรบ้างและนำไปประยุกต์ใช้อย่างไร

- วันนี้เรียนเรื่อง
       
 เทคนิคการจัดประสบการณ์คณิตศาสตร์ คือ
         - นิทาน
         - เพลง
         - เกม
         - คำคล้องจอง
         - ปริศนาคำทาย
         - บทบาทสมมติ
         - แผนภูมิรูปภาพ
         - การประกอบอาหาร
         - กิจวัตรประจำวัน เช่น การไปตลาด

- นำเสนอบทความ

      - เลขที่ 13 การสร้างหนังสือภาพเพื่อเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยการสร้างหนังสือภาพ ทำให้เด็กได้รับความสนุกสนาน ได้รับประสบการณ์ตรง และเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมทางคณิตศาสตร์ให้กับเด็ก
      - เลขที่ 14 การพัฒนาความพร้อมทางคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยโดยการการละเล่นพื้นบ้าน
        การเล่นคำทาย,การเป่ากบ,กาฟักไข่,รีรีข้าวสาร  ฝึกให้เด็กรู้จักการนับ การคิด รู้จักการรอคอย  คิดอย่างเป็นระบบ

- แบ่งกลุ่มทำกิจกรรม          แบ่งกลุ่มตัดกระดาษให้เป็นรูปสี่เหลี่ยม จำนวน 3 สี คือ สีส้ม สีเหลือง สีเขียว  สีละ 10 อัน  รวมเป็น 30 อัน โดยให้นักศึกษาต่อเป็นรูปภาพโดยเริ่มจากสี่เหลี่ยม 1 รูป ไปจนถึงสี่เหลี่ยม 5 รูป








เพลง นับนิ้วมือ
        นี้คือนิ้วมือของฉัน     มือของฉันนั้นมี 10 นิ้ว
มือซ้ายฉันมี 5 นิ้ว     มือขวาก็มี 5 นิ้ว
 นับ 1 2  4  5                    นับต่อมา 6 7 8 9 10
นับนิ้วนับจงอย่ารีบ           นับ 1-10 จำให้ขึ้นใจ






คำคล้องจอง 1 2 3
1 2 3 เป็นยามปลอด       4 5 6 ลอดรั้วออกไป
7 8 9 เเดดเเจ่มใส่         10 11 ไวไววิ่งไล่กัน
12 13 รีบย่องกลับ        14 15 หลับเเล้วฝัน
16 17 ตกเตียงพลัน          18 19 20 ฉันนั้นหัวโน







วิธีการสอน- มีกิจกรรมให้ทำก่อนเข้าสู่บทเรียน
- มีแบบฝึกหัดก่อนเรียนเพื่อทราบถึงความรู้เดิม
- อาจารย์เปิดโอกาสให้นักศึกษาระดมความคิดในการช่วยกันตอบคำถามภายในห้อง
- ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสอน
- นำกิจกรรมมาให้นักศึกษาเพื่อให้เข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขึ้น



ท้กษะ
- ทักษะในการคิดวิเคราะห์
- ทักษะในการถาม- ตอบ
- ทักษะในการสรุปองค์ความรู้ ทำให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขึ้น
- ทักษะในการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้ในการจัดกิจกรรม



การนำไปประยุกต์ใช้    
        นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้กับเด็ก ในเรื่องคณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยโดยการนำดทคนิควิธีการที่หลากหลายไปใช้



บรรยากาศในห้องเรียน
       มีแสงสว่างมากพอ โต๊ะเก้าอี้จัดเป็นระเบียบเรียบร้อย พื้นห้องสะอาด วัสดุอุปกรณ์ในการเรียนการสอนมีพร้อม แต่อากาศในห้องเรียนค่อนข้างเย็น



ประเมินตนเอง
        ตั้งใจเรียน มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระมากยิ่งขึ้น ทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ให้ความร่วมมือในการเรียน



ประเมินเพื่อน
        ตั้งใจเรียน ให้ความมือในการเรียน ทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย



ประเมินอาจารย์        
        สอนได้เข้าใจง่าย จังหวะการพูดไม่ช้า ไม่เร็วจนเกินไป มีน้ำเสียงที่พอดี ร้องเพลงได้ไพเราะ ไม่ผิดไม่เพี้ยน ใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นักศึกษามีความกระตือรือล้น หากิจกรรมที่แปลกใหม่มาให้นักศึกษาทำและมีการเชื่อมโยงความรู้ต่างๆให้เข้ากับกิจกรรม  ทำให้เข้าใจและเกิดความรู้ที่แปลกใหม่มากยิ่งขึ้น














วันเสาร์ที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

ครั้งที่ 5




บันทึกอนุทิน
ประจำวันพุธ ที่ 4 กุมภาพันธ์ 2558



เนื้อหา

- กิจกรรมติดชื่อบนกระดาน ( มาเรียน, ไม่มาเรียน) ให้เด็กมีส่วนร่วมในการติดป้ายชื่อของตนเองมาเรียนกับไม่มาเรียน เป็นการสอนแบบลงมือปฏิบัติด้วยตนเอง

- ทดสอบการเรียน
1. มาตรฐานคืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร
2. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์มีอะไรบ้าง
3. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์สู่การปฏิบัติในชั้นเรียนทำได้อย่างไรบ้าง

- เรียนเรื่อง
1. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์
2. สาระและมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน

- นำเสนอบทความ
เลขที่ 10 เรื่อง Mathematic ของวัยซน

มาตรฐาน คือ
         เครื่องมือในการบอกคุณภาพ โดยมีเกณฑ์เป็นตัวกำหนดและใช้เกณฑ์ขั้นต่ำในการวัดประเมินผล

กรอบมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ปฐมวัย
         เด็กปฐมวัยเรียนรู้อะไรในคณิตศาสตร์ ให้เด็กได้เตรียมความพร้อมด้านต่างๆทางคณิตศาสตร์ที่เป็นพื้นฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ในชั้นประถมศึกษา

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้
สาระที่ 1 : จำนวนและการดำเนิน (จำนวนโดยการหาคำตอบ)
สาระที่ 2 : การวัด (หาค่าในเชิงปริมาณ, เครื่องมือที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ)
สาระที่ 3 : เรขาคณิต (รูปร่าง)
สาระที่ 4 : พีชคณิต ( ความสัมพันธ์ของจำนวน)
สาระที่่ 5 : การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
สาระที่ 6 : ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์

คุณภาพของเด็กเมื่อจบการศึกษาปฐมวัยทางคณิตศาสตร์
1. มีความคิดเชิงคณิตศาสตร์ ( Mathematical Thinking)
- จำนวนนับ 1 ถึง 20
- เข้าใจหลักการนับ (เพิ่มขึ้นทีละ 1)
- รู้จักตัวเลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทย ( รู้จักตัวเลข)
- รู้ค่าของจำนวน ( ต้องมีทักษะการนับเป็นอันดับแรก ถึงจะรู้ค่าของจำนวนได้)
- เปรียบเทียบ เรียงลำดับ ( บอกค่าและจำนวน และนำมาเปรียบเทียบ โดยอ้างอิงจากเกณฑ์ในการเปรียบเทียบ
- การรวมและการแยกกลุุ่ม เช่น ติดป้ายชื่อการมาเรียน กับการมาเรียน)

2. มีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับความยาว น้ำหนัก ปริมาตร เงิน และ เวลา
- เปรียบเทียบ เรียงลำดับ และวัดความยาว น้ำหนัก ปริมาตร
- รู้จักเงินเหรียญและธนบัตร
- เข้าใจเกี่ยวกับเวลาและคำชี้ใช้บอกช่วงเวลา (กิจกรรมที่ใช้ในการบอกเด็ก เช่น การเข้าแถว )

3. มีความรู้ความเข้าใจพื้นฐานทางเรขาคณิต
- ตำแหน่ง ทิศทาง ระยะทาง
- รูปเรขาคณิตสามมิติและรูปเรคณิตสองมิติ

4. มีความรู้ความเข้าใจรูปของที่มีรูปร่าง ขนาดสี ที่สัมพันธ์อย่างใดอย่างหนึ่ง
5. มีส่วนร่วมในการให้ข้อมูลและนำเสนอข้อมูลในรูปแบบแผนภูมิอย่างง่าย
6. มีทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ที่จำเป็น

สาระและมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์สู่การปฏิบัติในชั้นเรียน
สาระที่ 1 : จำนวนและการดำเนินการ
   มาตรฐาน ค.ป. 1.1 เข้าใจถึงความหลากหลายของการแสดงจำนวนและการใช้จำนวนในชีวิตจริง
จำนวน
- การใช้จำนวนบอกปริมาณที่ได้จากการนับ
- การอ่านตัวเลขฮินดูอารบิกและตัวเลขไทย
- การเขียนตัวเลขฮินดูอารบิกแสดงจำนวน
- การเปรียบเทียบจำนวน
- การเรียงลำดับจำนวน
การรวมและการแยกกลุ่ม
- ความหมายของการรวม ( ทำให้เพิ่มขึ้น )
- การรวมสิ่งต่างๆสองกลุ่มที่มีผลรวมไม่เกิน 10
- ความหมายของการแยก ( ทำให้ลดลง )
- การแยกกลุ่มย่อยออกจากกลุ่มใหญ่ที่มีจำนวนไม่เกิน 10

สาระที่ 2 : การวัด 
  มาตรฐาน ค.ป. 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกี่ยวกับการวัดความยาว น้ำหนัก ปริมตร เงิน และเวลา
ความยาว น้ำหนัก และปริมาตร
- เปรียบเทียบ / วัด / เรียงลำดับความยาว
- เปรียบเทียบ / ชั่ง / การเรียงลำดับน้ำหนัก
- เปรียบเทียบ / ปริมาตร / ตวง
เงิน
- ชนิดค่าของเงิน / เหรียญ / ตวง
เวลา- ช่วงเวลาในแต่ละวัน
- ชื่อวันในสัปดาห์และคำที่ใช้บอกเกี่ยวกับวัน

สาระ 3 : เรขาคณิต
   
มาตรฐาน ค.ป. 3.1 รู้จักใช้คำในการบอกตำแหน่ง ทิศทาง และระยะทาง
   มาตรฐาน ค.ป. 3.2 รู้จักจำแนกรูปเรขาคณิต และเข้าใจการเปลี่ยนแปลงรูปเรขาคณิตที่เกิดจากการจัดกระทำ
ตำแหน่ง ทิศทาง ระยะทาง
รูปเรขาคณิตสามมิติ และ รูปเรขาคณิตสองมิติ
- ทรงกลม ทรงสี่เหลี่ยมมุมฉาก กรวย ทรงระบอก
- รูปวงกลม รูปสามเหลี่ยม รูปสี่เหลี่ยม
- การเปลี่ยนแปลงรูปเราขาคณิตสองมิติ
- การสร้างสรรค์งานศิลปะ รูปเรขาคณิตสามมิติและสองมิติ

สาระที่ 4 : พีชคณิต
  มาตรฐาน ค.ป. 4.1 เข้าใจแบบรูปและความสัมพันธ์
แบบรูปและความสัมพันธ์
- แบบรูปของรูปที่มี รูป ขนาด หรือ สี ที่สัมพันธ์กันอย่างใดอย่างหนึ่ง

สาระที่ 5 : การวิเคราะห์ข้อมูลและความน่าจะเป็น
  มาตรฐาน ค.ป. 5.1 รวบรวมข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับตนเองและสิ่งแวดล้อมที่จะนำเสนอ
การเก็บข้อมูล
- แผนภูมิ

สาระที่ 6 : ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์
- การแก้ปัญหา การให้เหตุผล การสื่อสาร การสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์และการนำเสนอ
- การเชื่อมโยงความรู้ทางคณิตศาสตร์และเชื่อมโยงคณิตศาตร์กับศาสตร์อื่นๆ และมีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์






เพลง  จัดแถว

สองมือเราชูตรง
แล้วเอาลงมาเสมอกับบ่า
ต่อไปย้ายมาข้างหน้า
แล้วเอาลงมาอยู่ในท่ายืนตรง




เพลง  ซ้าย-ขวา
ยืนให้ตัวตรง
ก้มหัวลงตบมือแผละ
แขนซ้ายอยู่ไหน
หันตัวไปทางนั้นแหละ




วิธีการสอน
 -มีแบบฝึกหัดก่อนเรียนเพื่อทราบถึงความรู้เดิม
- อาจารย์เปิดโอกาสให้เด็กระดมความคิดในการช่วยกันตอบคำถามภายในห้อง
- มีการการถาม-ตอบ
- ใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการสอน



ท้กษะ
- ทักษะในการคิดวิเคราะห์
- ทักษะในการถาม- ตอบ
- ทักษะในการสรปองค์ความรู้ ทำให้มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหามากยิ่งขึ้น



การนำไปประยุกต์ใช้   
        นำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการจัดกิจกรรมให้กับเด็ก ให้สอดคล้องกับสาระมาตรฐานการเรียนรู้คณิตศาสตร์ของเด็กปฐมวัย



บรรยากาศในห้องเรียน
       มีแสงสว่างมากพอ โต๊ะเก้าอี้จัดเป็นระเบียบเรียบร้อย พื้นห้องสะอาด วัสดุอุปกรณ์ในการเรียนการสอนมีพร้อม แต่อากาศในห้องเรียนค่อนข้างเย็น



ประเมินตนเอง
        ตั้งใจเรียน มีความรู้ความเข้าใจในเนื้อหาสาระมากยิ่งขึ้น ทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย ให้ความร่วมมือในการเรียน



ประเมินเพื่อน
        ตั้งใจเรียน ให้ความมือในการเรียน ทำงานตามที่ได้รับมอบหมาย



ประเมินอาจารย์       
        สอนได้เข้าใจง่าย จังหวะการพูดไม่ช้า ไม่เร็วจนเกินไป มีน้ำเสียงที่พอดี ร้องเพลงได้ไพเราะ ไม่ผิดไม่เพี้ยน ใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นักศึกษามีความกระตือรือล้น ทำให้เกิดความรู้มากยิ่งขึ้น






วันอาทิตย์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

สรุปโทรทัศน์ครู



เรื่อง  ฝึกคิดวางแผนด้วย"ศิลปะ"

คลิกดูวิดีโอโทรทัศน์ครูได้ที่นี่!!

โดย คุณครูอรพรรณ  ผดุงการณ์
รร.สาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายประถม)


            คุณครูอรวรรณ ผดุงการณ์ รร.สาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง (ฝ่ายประถม) มีแนวคิดที่ว่างานศิลปะไม่เพียงแต่นำมาฝึกความคิดสร้างสรรค์หรือสร้างความเพลิดเพลินให้เด็กได้เท่านั้น แท้จริงแล้วในกระบวนการทำงานศิลปะ สามารถนำมาใช้ฝึกกระบวนการคิด การวางแผนการทำงานให้กับเด็ก ๆ ได้ด้วย 
คุณครูจึงได้นำกิจกรรมนี้ใช้กับเด็ก ๆ ในชั้นอนุบาล 2 
โดยคุณครูอรวรรณได้นำหลักของทฤษฎี Plan(วางแผน)  Do(ลงมือปฏิบัติ)  Review (สรุปทบทวน) และได้นำมาปรับใช้กับงานศิลปะภายใต้โจทย์การทำชิ้นงานที่ยึดหน่วยการเรียนรู้ในสัปดาห์นั้นๆ คุณครูได้ให้เด็กๆทำกิจกรรมฝึกฝนกระบวนการคิดและการวางแผนโดยผ่านกิจกิจกรรมศิลปะในหน่วยการเรียนรู้เรื่อง "บ้าน" คุณครูไ้ด้กล่าวถึงลักษณะของบ้านว่ามีรูปทรงไหนบ้าง เมื่อเด็กๆมีความคิดรวบยอดแล้วก็จะสามารถเชื่อมโยงไปสู่กิจกรรมศิลปะได้ โดยให้เด็ก ๆ ออกแบบชิ้นงานในกระดาษ  วางแผนการเลือกใช้อุปกรณ์ และสร้างสรรค์ผลงานออกมาให้ตรงกับสิ่งที่ได้ออกแบบและวางแผนไว้ มีการสอบถามเหตุผลกับเด็กว่าทำไมถึงเลือกอุปกรณ์ชิ้นนี้  แล้วสุดท้ายนำกระบวนการมาสรุปและนำเสนอต่อเพื่อน ๆ  เป็นการส่ง้สริมให้เด็กกล้าแสดงออกมากขึ้น  มีความภาคภูมิใจในผลงานของตนเอง มีความเชื่อมั่นในผลงาน และการชื่นชมผลงานของเพื่อนๆอีกด้วย